วิธีดู SPEC ของสายไฟ
สายไฟฟ้า คืออะไร?
สายไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ที่เป็นตัวกลางในการนำกระแสไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟ ไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยสายไฟประกอบไปด้วย ตัวนำไฟฟ้า ซึ่งจะทำจากโลหะที่ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ดี และมีความต้านทานไฟฟ้าน้อย เช่น ทองแดง และฉนวนไฟฟ้า ที่ใช้ในการหุ้มป้องกันไม่ให้ผู้ใช้กับสายโดยตรง และลดโอกาสที่จะทำให้เกิดอันตรายจากไฟฟ้าด้วย
1. สายไฟแรงดันต่ำ (Low Voltage)
สายไฟที่ใช้กับแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เกิน 750 โวลต์ (750V)
สายไฟนั้นทำด้วยทองแดง หรืออะลูมิเนียม แต่โดยทั่วไปจะเป็นสายทองแดง
สายขนาดเล็ก จะเป็นสายตัวนำเดี่ยว และสายขนาดใหญ่จะเป็นตัวนำตีเกลียว
ฉนวนที่ใช้งานจะเป็น PVC และ XLPE
2. สายไฟแรงดันกลาง (Medium Voltage)
จะเป็นสายชนิดตีเกลียวที่มีขนาดใหญ่
สายชนิดนี้ จะมีทั้งสายแบบทั้งแบบเปลือย และหุ้มฉนวน
สายไฟสามารถรับแรงดันได้ตั้งแต่ 1KV ~ 36KV
ในบทความนี้จะขอกล่าวถึง LOW VOLTAGE เพียงอย่างเดียว
ชนิดของสายไฟแรงดันต่ำ
1.1 สายไฟชนิด THW
สายไฟชนิด THW จะเป็นสายไฟชนิดแรงดันต่ำ รองรับแรงดันได้ 750V เป็นสายชนิดเดี่ยว มีการใช้งานอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากนำไปใช้ในวงจรไฟฟ้า 3 เฟสได้ ซึ่งสายไฟชนิดนี้ ไม่เหมาะสำหรับการเดินฝังดินโดยตรง และเมื่อต้องการเดินลอยจะต้องยึดสายด้วย Insulator ด้วย
1.2 สายไฟชนิด VAF
สายไฟชนิด VAF จะเป็นสายไฟชนิดแรงดันต่ำ สามารถทนแรงดันได้ 300V มีทั้งชนิดสายเดี่ยว สายคู่ และแบบสามสายที่รวมสายดินไปด้วย โดยที่แต่ละสายก็จะมีฉนวนหุ้ม และมีเปลือกหุ้มที่เป็นฉนวนอยู่อีกชั้นหนึ่งด้านนอก เป็นสายไฟชนิดที่นิยมในการเดินภายในบ้านทั่วไป แต่ไม่สามารถใช้งานในการติดตั้งไฟฟ้า 3 เฟสได้ เพราะไม่สามารถรองรับแรงดันที่ 380V ได้ ยกเว้นจะติดตั้งแบบแยกเป็นแบบ 1 เฟส และใช้แรงดัน 220V
1.3 สายไฟชนิด VCT
สายไฟชนิด VCT จะเป็นสายไฟชนิดแรงดันต่ำ สามารถทนแรงดันได้ 750V ตัวสายมีลักษณะกลม มีทั้งชนิด 1 ,2 แกน, 3 แกน และ 4 แกน โดยจุดเด่นของสายชนิดนี้ คือ จะเป็นสายที่ประกอบด้วยสายทองแดงฝอยเส้นเล็ก ๆ จึงทำให้สายมีความอ่อนตัว และทนต่อการสั่นสะเทือนได้ดี และยังเป็นสายที่สามารถต่อลงดินได้
1.4 สายไฟชนิด NYY
สายไฟชนิด NYY เป็นสายไฟชนิดกลม ที่สามารถทนแรงดันได้ 750V มีทั้งแบบแกนเดียว และหลายแกน เป็นสายที่นิยมใช้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นสายที่มีเปลือกหุ้มอีกชั้น จึงสามารถป้องกันความเสียหายทางกายภาพได้ดี โดยสายชนิดนี้ สามารถเดินฝังใต้ดินได้
การเลือกสายไฟจะเลือกจากแรงดันและกระแสไฟที่ใช้เป็นหลัก แล้วจึงมาเลือกชนิดของสายในการติดตั้งบริเวณต่างๆที่เราต้องการ อนึ่ง ความหมายของ SPEC ในภาพดังกล่าว
Nominal cross sectional area : คือ พื้นที่ตัดขวางของตัวนำไฟฟ้า (Sq.mm)
Class of Conductor : คือ ประเภทของตัวนำแยกได้ดังนี้
- Class 1 คือ ตัวนำเส้นเดี่ยว (Solid conductor)
- Class 2 คือ ตัวนำตีเกลียว (Stranded conductor)
- Class 5 คือ ตัวนำสายอ่อน (Flexible conductor)
- Class 6 ที่อ่อนตัวได้มากกว่า Class 5Insulation Thickness : คือ ความหนาของฉนวนที่หุ้มสายไฟ (mm.)
Overall Diameter : คือ เส้นผ่าศูนย์กลางของสายไฟทั้งหมด (mm. ต่ำ-สูง)
Conductor Resistance : คือ ความต้านทานภายในสาย Ohm/ kM
Insulation Resistance : คือ ความต้านทานของฉนวน MOhm/kM
Continuous Current Rate : คือ ค่าทนกระแสของสายสูงสุด (A)
Cable weight : คือ น้ำหนักรวมของสาย Kg/ km
Standard length : คือ ขนาดบรรจุพัณฑ์ เมตร(ม้วน- โรว์)